สำนักแปลภาษาผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ไมว่าจะเป็น รับแปลไทยเป็นอังกฤษ หรือ แปลจากภาษาอังกฤษ ไปเป็นไทย หรือ รับเขียนบทความภาษาอังกฤษ ก็มีอยู่ไม่น้อย แสดงว่าภาษาอังกฤษ มันจำเป็นมากขึ้นเรื่อย จากที่แต่ก่อนจำเป็นมากอยู่แล้ว….ขอแนะนำให้รีบ เรียนภาษาอังกฤษ เสียตั้งแต่วันนี้ จะได้เก่งก่อนคนอีกมากมายที่ยังไม่ได้เริ่ม…พร้อมจะเก่งหรือยัง ไปดูคำศัพท์ที่เอามาฝากกัน ดูบ่อยๆ ผ่านตาเรื่อย ถ้ารู้สึกเมื่อย เราก็พัก แต่อย่าได้ลืม ทิ้งขว้างไปเลย โดยไม่หันหลังกลับมาใส่ใจอีกเลย…ถ้าเป็นอย่างนี้ เรียนภาษาอังกฤษ อีกกี่ปีจึงจะสำเร็จกับเค้าเล่า…
Jumbo (adj.) ใหญ่มาก (jumbosize) ขนาดยักษ์, ขนาดช้าง
Jumb (v.) พึงสังเกตสำนวนต่อไปนี้
Go jump the lake : ไปให้พ้น, ไม่เป็นสาระ
Jump the gun : ทำอะไรก่อนเวลากำหนด
Jump area (n.) ที่ๆกำหนดให้พลร่มกระโดดลง ตามปกติอยู่หลังแนวข้าศึก
Junk (n.) เรือสำเภาจีน, ของที่ทิ้งแล้วใช้ไม่ได้แล้ว
Junk (v.) ยกเลิกไป, ขจัดไป (Throw away, get rid of)
Junket (n.) การเดินทางไปเที่ยวเพื่อความสำราญ, การเดินทางไปราชการโดยใช้เงินหลวง
Junkie (n.) คนติดยาเสพติด (narcotics addicts)
Junk heap (n.) ป่าช้ารถยนต์
kaffeeklatsche (n.) การสังสรรค์กันฉันท์มิตร ส่วนมากในกลุ่มสตรีมีการเลี้ยงกาแฟน้ำชาและขนมเค๊ก คำนี้มาจากภาษาเยอรมัน
Kangaroo (n.) นักโทษที่ถูกจองจำโดยพยานหลักฐานที่ปลอม
Kangaroo Court (n.) ศาลเตี้ย, ที่ตั้งขึ้นเป็นพิเศษโดยใช้อำนาจบางอย่าง แต่มิได้เป็นไปตามกฎหมายในเรือนจำแทบทุกแห่งนักโทษ ในเรือนมักจะตั้ง Kangaroo Court กันขึ้น มีการแต่งตั้งพวกกันเองเป็นตุลาการ และหน้าที่อื่นๆ เหมือนกับศาลยุติธรรมโดยมากมักจะจัดการกับนักโทษหน้าใหม่ หรือนักโทษอื่นๆที่ไม่ยอมลงหัวกับพรรคพวกคนที่ถูก Kangaroo Court พิพากษาจะต้องจ่ายเงินและอาหารหรือบุหรี่ที่คนมี เพื่อแจกจ่ายนักโทษคนอื่น
Kangaroo trial คือการพิจารณาความ โดยวิธีการกำหนดกันเองไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่นเดียวกับคำ kangaroo court ซึ่งน่าจะแปลว่า “ศาลเตี้ย”
Keek (n.) คนที่แอบดูตามรูกุญแจ หรือตามหน้าต่าง (A peeping tom) หรือคนที่ทำการจารกรรมในโรงงานอุตสาหกรรม (Manufacturer’s spy) เพื่อดูการออกแบบใหม่ๆ, การวิจัย หรือ รายละเอียดทางธุรกิจตางๆเพื่อไปแจ้งแก่ฝ่ายตรงข้ามหรือคู่ข่างขัน
Keep (v.) (n.) มีสำนวนต่างๆกัน ดังนี้
To keep the lid on : ปิดเรื่องไว้ให้เงียบ
To keep up with the Jones : ทำให้ทัดเทียมกับเพื่อนบ้าน
For keeps : ตลอดไปชั่วกาลนาน
To keep the fingers crossed : หวังดีอย่างที่สุด
To keep abreast : ได้ข่าวหรือรู้ข้อมูลทันเวลา
To keep at bay : ต้อนเข้ามุม, ทำให้จนตรอก, ให้สงบ
To keep its chin up : ยังคงมีหวังต่อไป, เชิดตาขึ้น
To keep plugging : รุดหน้าต่อไปเรื่อย (Continue steadily)
To keep a weather eye on : เฝ้าดูอย่างระมัดระวัง (เหมือนผู้ตรวจอากาศเฝ้าดูว่าจะเกิดพายุหรือไม่)
Kerosene (n.0 น้ำมันที่ได้มาจาก Petroleam ใช้จุดตะเกียงหรือเตาทำกับข้าว น้ำมันก๊าด
Keyhole Peeker (n.) คนที่ชอบสอดรู้สอดเห็นในเรื่องที่ไม่ใช่ของตัว (คนที่ชอบแอบดูตามรูกุญแจ)
Kibitzer (n.) คนที่ดูคนอื่นทำงาน แล้วให้คำแนะนำที่มิได้มีใครเรียกร้องไต่ถาม
Kick in (n.) ให้เงินช่วย, จ่ายเงินให้คนอื่น, จ่ายเงินที่เป็นส่วนของตน เช่น
A request to “Kick in” with a libertybond subscription.
ขอร้องให้ช่วยเงินโดยซื้อพันธบัตร
To ask you guys kick in your share of the expenses
เพื่อขอร้องให้คุณช่วยออกเงินค่าใช้จ่ายส่วนของคุณ)
Kick off (n.) เคยแปลว่า “ตาย” เช่น ในประโยคว่า
After his wife kicked off แต่ในปัจจุบันใช้ในความหมายว่า เริ่มต้นสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น
เริ่มประชุมการรณรงค์ แต่มักจะเขียนติดเป็นคำเดียวกันและใช้เป็นนาม
Kick (n.) (v.) ใช้ได้ทั้งเป็นนามและเป็นกริยา
เช่น
To get a kick out of ได้รับความสนุกจาก
To kick upstairs : การขจัดบุคคลโดยเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้น แต่ไม่มีอำนาจ
Kickback (n.) เงินกินเปล่าจำนวนเงินที่ร้านค้าคืนให้ข้าราชการที่ซื้อของหลวง เราเรียกกันว่าได้เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นทางผิดกฎหมาย เป็นพฤติกรรมแบบคอรัปชั่นอย่างหนึ่ง
A kick in the pants การเอาเปรียบหรือได้เปรียบคนอื่น โดยใช้พลังที่เหนือกว่า
Kick the campaign into high gear : ทำให้กิจกรรมคึกคักเต็มที่ รูปวลีนี้คือ Kick…..into high gear ซึ่งจะมีคำนามอะไรมาเป็นกรรมก็ได้ ความหมายหนักไปในทางที่จะทำสิ่งนั้นให้คึกคักขึ้น ประโยคตัวอย่างนี้มุ่งถึงการรณรงค์ทางการกีฬา
Kick him in the knacker อย่างหยาบ ชั้นต่ำ
ต้องขอบอกว่ามันเยอะมากๆ เลยน่ะคำศัพท์เนี่ย ถ้าเราเรียนแบบท่องจำอย่างเดียวคงไม่ไหวแน่ เราควรลงมือทำให้มันซึมซับเข้าไปในหัวสมองเราด้วยดีกว่า
เช่น เราอาจลองนึกคำหรือประโยคภาษาไทย ขึ้นมา แล้วลองแต่เป็นภาษาอังกฤษดู หรือถ้ากลัวว่านึกขึ้นมาแล้วและได้ลองแต่งดูแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าแต่งได้ถูกต้อง ให้เราลองทำวิธีนี้
*ให้เราลองหาหนังสือ เรียนภาษาอังกฤษ ที่รวมประโยคที่ใช้สนทนาในชีประจำวันมาเป็นเจ้าของสัก 1 เล่ม แล้วลองปิดประโยคที่เป็นภาษาอังกฤษไว้ แล้วลองแต่งประโยคภาษาไทยนั้นให้กลายเป็นภาษาอังกฤษดู ดูซิว่าเราแต่งประโยคได้ใกล้เคียงไหม ลองทำแบบนี้ดูบ่อยๆถ้าหากว่าเบื่อที่ต้องเรียน Tense แล้ว บางทีวิธีแปลกใหม่อาจช่วยกระตุ้นความสนใจในการ เรียนภาษาอังกฤษ ของเราให้ลุกโชนขึ้นมา…….ก็เป็นด้ายยย (จบแบบคนอวดผีซะ)