Greetings การทักทาย

โดยปกติเมื่อคนไทยพบกันจะกล่าวคำว่า “สวัสดี” ซึ่งมันคือคำทักทาย
แต่ในภาษาอังกฤษ
จำเป็นจะต้องใช้แตกต่างกันออกไปตามเวลาที่ได้พบปะกัน เช่น
Good morning  กูด
มอนิ่ง  สวัสดีตอนเช้า   โดยคำนี้ใช้ตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงวัน และใช้กับใครก็ได้
Good afternoon  กูด
อ๊าฟเตอร์นูน  สวัสดตอนบ่าย  โดยใช้ตั้งแต่หลังเวลาอาหารกลางวัน
คือหลังเที่ยงไปจนถึง 6 โมงเย็น
Good evening  กูด
อีฟนิ่ง  สวัสดีตอนค่ำ  โดยใช้ตั้งแต่หลัง 6
โมงเย็นไปแล้วจนถึงเวลากลางคืน
Hello เฮลโล สวัสดี 
โดยใช้เฉพาะกับเพื่อนสนิท หรือทักทายแบบไม่เป็นทางการ โดยไม่จำกัดเวลา
Hi ไฮ้ สวัสดี  
โดยใช้เฉพาะกับคนที่เราสนิทมาก โดยไม่จำกัดเวลาเช่นกัน
How do you do?  ฮาว ดู ยู
ดู 
คำนี้เป็นคำทักทายเช่นกัน แต่ไม่ค่อยนิยมใช้บ่อยเหมือนคำทักทายต้นๆ
แต่ก็ยังมีใช้ให้ได้ยินอยู่บ่อยๆ และก็ไม่จำกัดเวลาใช้  คำทักทายนี้จะใช้กับคนที่พบหรือรู้จักกันเป็นครั้งแรกเท่านั้น
และจะอยู่ในรูปของประโยคคำถาม ซึ่งไม่ต้องการคำตอบ และเมื่อเราถูกทักทายว่า
How do you do? เราก็ต้องกล่าวตอบว่า How do you do? เช่นเดียวกัน
    ในภาษาอังกฤษ
หลังจากที่ทักทายกันด้วยคำว่า “สวัสดี” แล้ว
ก็จะเป็นการถามถึงสุขภาพหรือสารทุกข์สุกดิบของอีกฝ่ายหนึ่งทันที ซึ่งถือว่าการถามเช่นนี้เป็นสิ่งจำเป็นหรือเรียกว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติตามารยาทของสังคม
คำที่นิยมใช้กันมากที่สุดในการถามสารทุกข์สุขดิบ
คือ
How are you? ฮาว อาร์ ยู คุณเป็นอย่างไรบ้าง
หลังจากที่ทักทายและถามถึงสุขภาพแล้ว
ฝ่ายผู้ตอบก็จะต้องตอบในลักษณะนี้อย่างใดอย่างหนึ่งตามความรู้สึกของผู้ตอบเอง เช่น
Fine, thanks. How are you?
ไฟน์,
แธ้งค์ส ฮาว อาร์ยู
สบายดี ขอบคุณ แล้วคุณล่ะเป็นอย่างไรบ้าง
Very well, thank you, and you?
เวรี่เวล, แธ้งค์ กิ้ว, แอนด์ ยู
สบายดีมากเลย ขอบคุณ แล้วคุณล่ะ
Ok thank and you?
โอเค แธ้งค์ แอนด์ ยู
โอเคครับ ขอบคุณ แล้วคุณล่ะ
กรณีที่เราไม่สบายจริงๆ เช่น เป็นหวัด ปวดหัว ปวดฟัน เราอาจจะตอบว่า
Not so well, I have a cold. How are you?
(น็อต โซ เวล, ไอ แฮฟว อะโคลด์ ฮาว อาร์ ยู)
ผมไม่ค่อยสบาย เป็นหวัด แล้วคุณล่ะเป็นอย่างไรบ้าง
ในกรณีที่อีกฝ่ายหนึ่งตอบมาว่า ไม่สบายด้วยเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง
เราควรจะตอบตามมารยาทว่า
I am sorry to hear it.
ไอ แอม ซอรี่ ทู เฮียร์ อิท
ผมเสียใจที่ได้ทราบเช่นนั้น
That’s too bad.
แด็ทส ทู แบด
นั่นเป็นเรื่องแย่มากเลย
I hope you feel better.
ไอ โฮป ยู ฟีล เบทเทอร์
ผมหวังว่าคุณจะรู้สึกดีขึ้น
ตัวอย่างบทสนทนา เกี่ยวกับการทักทาย
Prayong : Good morning, Mr.Mayom.
ประยง : กูด มอร์นิ่ง มิสเตอร์ มะยม
สวัสดียามเช้าน่ะคุณมะยม
Mayom : Good morning, Mr. Prayong.
มะยม : กูด มอร์นิ่ง มิสเตอร์ประยง
สวัสดียามเช้าน่ะคุณประยง
Prayong : How are you this morning?
ประยง : ฮาว อาร์ ยู ดิส มอร์นิ่ง
สบายดีหรือเปล่า
Mayom : Fine, thanks, and you?
มะยม : ไฟน์ แธ้งค์ส, แอนด์ ยู
อืม สบายดี ขอบคุณ แล้วเธอล่ะ
Prayong : Very well, thank you.
ประยง : เวรี่ เวลล์, แธ้งค์ กิ้ว
สบายดีมากเลย ขอบคุณ
Mayom : Nice day is it?
มะยม : ไนซ์ เดย์ อีสซึ่น อิท
วันนี้ช่างเป็นวันที่ดีจริงๆ เลยน่ะ
Prayong : it certainly is.
ประยง : อิท เซอร์เทนลี่ อีส
ใช่ แน่นอน