ทุกท่านครับ ก่อนอื่นขอให้เรามาทำใจกว้างๆเพื่อยอมรับความจริงไว้เสียก่อนว่า ในโลกของเรานี้ พระเจ้ามักจะสร้างสรรพสิ่งไว้เป็นของคู่กันหรือถ่วงดุลกันเสมอ เช่น สร้างให้มีมืดก็ให้มีสว่าง มีร้อนก็มีเย็นแก้ มีสูงก็ให้มีต่ำ มีดำก็มีขาว มีข้อบังคับก็มีข้อยกเว้นอะไรทำนองนี้
ฉะนั้นหลักภาษาอังกฤษก็เช่นเดียวกัน เมื่อมีข้อบังคับก็ต้องมีข้อยกเว้น หรือมีข้อห้ามก็มีข้ออนุโลมผ่อนผันให้ ซึ่งข้อเท็จจริงอันนี้เป็นสภาวะธรรมของสรรพสิ่งทั่วๆไป ที่เคยกล่าวมาแล้วในเรื่องของการใช้ a, an นำหน้า และในเรื่องของการใช้ the นำหน้า ..
แต่ในหัวข้อนี้จะอธิบายถึงข้อห้ามของการใช้ A, An, The นำหน้า ว่ามีข้อห้ามอะไรบ้าง ดังต่อไปนี้
1. นามที่นับได้ (Uncountable Noun) ที่กล่าวขึ้นมาลอยๆโดยไม่มีวลี (Phrase) หรืออนุประโยค (Clause) อื่นใด มาขยายเพื่อชี้เฉพาะอยู่ข้างหลัง ไม่ต้องใช้ Article นำหน้า เช่น
I want to drink tea and coffee.
ผมต้องการดื่มน้ำชาและกาแฟ
Light travels faster than sound.
แสงเดินทางได้เร็วกว่าเสียง
Water is composed of hydrogen and oxygen.
น้ำประกอบด้วยไฮโดรเจน และออกซิเจน
แต่ถ้ามี Phrase หรือ Clause มาขยายอยู่ข้างหลัง ต้องใช้ the นำหน้า เช่น
I like the coffee which comes from Peru.
ผมชอบกาแฟที่มาจากประเทศเปรู
The water in my glass is very clean to drink.
น้ำในแก้วของฉันสะอาดดีมากที่จะดื่ม
2. อาการนาม (Abstract Noun) ที่มีสำเนียงแปลว่า “การหรือความ” ซึ่งกล่าวขึ้นมาลอยๆไม่มี Phrase หรือ Clause มาขยายชี้เฉพาะอยู่ข้างหลังไม่ต้องใช้ Article นำหน้า เช่น
Honesty is the best policy.
ความซื่อสัตย์เป็นนโยบายที่ดีที่สุด
Drinking too much whisky makes him very bad health.
การดื่มสุรามากเกินไปทำให้เขาสุขภาพไม่ดีเอาทีเดียว
Negligence is the path of death.
ความประมาทเป็นทางแห่งความตาย
แต่ถ้ามี Phrase หรือ Clause มาขยายชี้เฉพาะอยู่ข้างหลัง ต้องใช้ the นำหน้า เช่น
The honesty of this boy deserved to be praised.
ความซื่อสัตย์ของเด็กคนนี้สมควรได้รับการยกย่อง
The singing of the birds awakes me every morning.
เสียงร้องของนกทำให้ผมตื่นทุกๆเช้า
3. นามพหูพจน์ (plural Noun) ที่กล่าวขึ้นมาลอยๆ ไม่มี Phrase หรื Clause มาขยายเพื่อชี้เฉพาะอยู่ข้างหลัง ไม่ต้องใช้ Article นำหน้า เช่น
Students should come to school in early morning.
นักเรียนควรมาโรงเรียนแต่เช้าหน่อย
Women like beautiful clothes.
ผู้หญิงชอบเสื้อผ้าสวยๆ
แต่ถ้ามี Phrase หรือ Clause มาขยายชี้เฉพาะอยู่ข้างหลัง ต้องใช้ The นำหน้าตลอดไป เช่น
The students in this school are interested in English.
นักเรียนในโรงเรียนแห่งนี้สนใจภาษาอังกฤษ
The books which I bought yesterday are interesting.
หนังสือที่ผมได้ซื้อมาเมื่อวานนี้น่าสนใจ
4. นามที่เป็นชื่อวิชา, ภาษา ไม่ต้องใช้ Article นำหน้าได้แก่
English ภาษาอังกฤษ French ภาษาฝรั่งเศส
Engineering วิศวกรรม history ประวัติศาสตร์
Geography ภูมิศาสตร์ Biology ชีววิทยา
Mathematics คณิตศาสตร์ economics เศรษฐศาสตร์ เช่น
We study English twice a week.
เราเรียนภาษาอังกฤษสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
Manu wants to continue engineering in U.S.A
มนูต้องการเรียนต่อวิศวกรรมที่สหรัฐ
แต่ถ้านามที่เป็นชื่อวิชา, ภาษา เหล่านี้ นำไปใช้อย่างคุณศัพท์ (Adjective) ประกอบนามตัวอื่น ต้องใช้ The นำหน้าทันที่ เช่น
Wantani is going to learn the English language next week.
วันทนีย์จะเรียนภาษาอังกฤษสัปดาห์หน้า
The economics subject is more difficult than history.
วิชาเศรษฐศาสตร์ยากกว่าประวัติศาสตร์