เรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Agreement of Subjects and Verbs ตอนที่ 4 (ตอนจบ)
เรา เรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Agreement of Subjects and Verbs มาถึงตอนจบแล้ว ซึ่งตั้งแต่ตอนที่ 1 ถึง 4 นี้ เราจะเห็นว่า มีกฎเกณฑ์มากมายที่เราต้องทำความเข้าใจ และบางอย่างอาจต้องจดจำ…แต่ในความเห็นส่วนตัวของผมแล้ว ผมคิดว่าเราควรจะจดจำให้ได้ จดจำให้ขึ้นใจ ด้วยการท่องจำกฎเกณฑ์เหล่านี้ไว้เลย แล้วเราจะ เรียนภาษาอังกฤษ ได้อย่างรวดเร็ว….
ตอนสมัยที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ ผมเคยทำข้อสอบภาษาอังกฤษ ได้คะแนนเต็ม 100คะแนน ไม่ซิ 200 คะแนน เป็นการทดสอบคำศัพท์เฉพาะทางด้านพืชศาสตร์…และต่อมาก็มีการสอบคำศัพท์เฉพาะด้านวิศวกรรมอีก ซึ่งก็ทำคะแนนได้เต็มทุกครั้ง แม้ว่าการสอบจะเป็นการให้บอกความหมายของคำศัพท์ ซึ่งถ้าเราจำได้ เราก็จะทำได้เต็ม ไม่น่าจะยาก….แต่อย่าลืมว่า ก่อนที่เราจะจำได้เราต้องอ่าน และต้องท่องอยู่กลายๆให้ได้ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักสำหรับคนที่ไม่มีความพยายาม…ดังนั้นการเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผลดีอย่างหนึ่ง และเรียนได้เร็ว ผมว่า เราต้องจดจำมันให้ได้ (โดยจดจำได้บนพื้นฐานแห่งความเข้าใจด้วยน่ะ ถึงจะสำฤทธิ์ผล)
14. นามบางคำเมื่อมาเป็นตัวประธานมีรูปเดียว ใช้ได้ทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ การใช้กริยาว่า จะใช้รูปไหนนั้น ต้องดูจากความหมายว่าเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ ได้แก่
Deer กวาง
|
Cod ปลาค้อด
|
Sheep แกะ
|
Fish ปลา (ทั่วไป)
|
Trout (ปลาเทร้า)
|
Salmon ปลาแซลมอน
|
Herring ปลาเฮอริ่ง
|
|
เช่น
A deer is in the field.
กวางหนึ่งตัวอยู่ในทุ่ง
Five deer are in the zero.
กวางห้าตัวอยู่ที่สวนสัตว์
Fish is good to eat.
ปลาอร่อยที่จะทาน
Three fish were bought at the market.
ปลาสามตัวซื้อที่ตลาด
15. คำนามต่อไปนี้รูปศัพท์เป็นเอกพจน์ แต่ใช้เป็นพหูพจน์ตลอดไป ฉะนั้นเมื่อมาเป็นประธานกริยาจึงใช้รูปพหูพจน์ตามด้วย ได้แก่
People ประชาชน
Police ตำรวจ
Cattle วัวควาย
Vermin สัตว์ตัวเล็ก
Poultry เป็ดไก่
Children เด็กๆ เช่น
The cattle are useful for the farmers.
วัวควายเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์ต่อชาวนา
The police are standing round the house.
ตำรวจกำลังยืนล้อมบ้านหลังนั้นอยู่
16. นามต่อไปนี้รูปศัพท์เป็นพหูพจน์ และใช้ในนามพหูพจน์ด้วย ฉะนั้นเมื่อเป็นประธาน กริยาจึงต้องใช้รูปพหูพจน์ตามได้แก่
Trousers กางเกงขายาว
Suds ฟองสบู่
Shorts กางเกงขาสั้น
Sheers กรรไกร
Drawers ลิ้นชัก
Tweezers ปากคีบ, คีม
Breeches เชือกผูกรองเท้า
Trappings เครื่องยศ
arms อาวุธ
Entrails ลำไส้
Wages ค่าจ้าง (มี s เสมอ ยกเว้น a living wage = ค่าครองชีพ)
Biceps กล้ามเนื้อแขน
Tidings ข่าว
Spectacles แว่นตา
Riches ทรัพย์สมบัติ
Tongs คีม (ด้ามยาว)
Assets ทรัพย์สิน
Bellows เครื่องสูบลม
Amends ค่าชดใช้
Pincers คีมปากนกแก้ว
Chattels ทรัพย์เคลื่อนที่ได้
Scissors กรรไกร
Victuals เสบียง
Thanks ขอบคุณ
Whiskers เครา
Clothes เสื้อผ้า
Eaves ชายคา
Billiards บิลเลียด
Pantacons กางเกงยาวชนิดตลก
Draughts หมากรุก
Bowels เครื่องใน
Contents บัญชีเรื่อง
Embers ถ่านที่กำลังคุ
Fetters โซ่ตรวน
Nuptials กางแต่งงาน
เช่น My trousers are dirty.
กางเกงขายาวของฉันสกปรก
His whiskers are both long and beautiful.
เคราของเขาทั้งยาวและก็สวยด้วย
17. ชื่อหนังสือ (title of book) จำนวนเงิน (a sum of money) ระยะทาง (distance) และเวลา (time) แม้จะเป็นพหูพจน์ ก็ใช้กริยาเป็นเอกพจน์เสมอ เช่น
“Gulliver’s Travels” was written by Swift.
เรืองการเดินทางของกัลป์ลิเว่อร์เขียนโดยสวิฟท์
“The Stories of Shakespear’s Plays” is an interesting book.
เรื่องบทละครของเช็คสะเปียร์เป็นหนังสือที่น่าสนใจ
A hundred pounds is a large amount of money.
เงิน 100 ปอนด์เป็นเงินจำนวนมาก
Fifty dollars is too expensive for this camera.
50 เหรียญเป็นราคาแพงเกินไปสำหรับกล้องถ่ายรูปนี้
Ten Kilometers is a long distance to walk in one hour.
10 กิโลเมตรเป็นระยะทางยาวที่จะเดินในหนึ่งชั่วโมง
Three weeks is too long time to wait.
3 สัปดาห์เป็นเวลาที่นานเกินไปที่จะรอคอย
18. ประธานหลายตัวที่เชื่อมด้วย or, either……….or, neither………nor, not only………..but also…………..ให้ใช้กริยากับประธานที่อยู่หลัง or, nor, but ตลอดไป เช่น
You or he cleans the house today.
คุณหรือเขาก็ได้ทำความสะอาดบ้านวันนี้
Either she or you are going to answer the telephone.
ไม่หล่อนก็คุณจะต้องรับโทรศัพท์
Neither you nor I am to go now.
ทั้งคุณและผมไม่ต้องไปเดี๋ยวนี้หรอก
Neither Daeng nor his friends have gone home.
ทั้งแดงและเพื่อนของเขายังไม่ได้กลับบ้าน
จำและวางไว้ถูกที่ : ประธานหลายตัวที่เชื่อมด้วย Either……..or, neither……….nor มีหลักการวางดังนี้
A)ถ้าปรานหนึ่งเป็นเอกพจน์ และอีกประธานหนึ่งเป็นพหูพจน์ ให้เอาประธานพหูพจน์ไว้หลัง or หรือ nor และกริยาถือตามประธานตัวหลัง เช่น
Either jack or his friends are to be promoted.
ไม่แจ็คก็เพื่อนของเขาจะได้เลื่อนขั้น
Neither the house nor its contents were insured.
ทั้งบ้านและข้าวของที่มีอยู่ไม่ได้ทำประกันไว้
B) ถ้าประธานตัวหนึ่งเป็น I ให้เอา I วางไว้หลัง or หรือ nor และกริยาถือตาม I เสมอ เช่น
Either Dam or I am to be blamed.
ไม่ดำก็ผม (คนใดคนหนึ่ง) จะต้องถูกตำหนิ
Neither Dam nor I am to be blamed.
ทั้งดำและผม (ทั้งสองคน) จะไม่ถูกตำหนิ
C) ถ้าประธานตัวหนึ่งเป็น you ให้วาง you ไว้หน้า or หรือ nor ส่วนกริยาถือเอาตามประธานที่อยู่หลัง or, nor เช่น
Either you or your friend is right.
ไม่คุณก็เพื่อนๆ ของคุณเป็นฝ่ายถูก
Neither you nor I am to get the prize.
ทั้งคุณและผมจะไม่ได้รับรางวัล
19. กริยาของ Who, Which, that ที่เป็น Relative Pronoun (ประพันธ์สรรพนาม) จะใช้รูปเอกพจน์หรือพหูพจน์ ให้ถือเอาตามคำที่มันไปแทน (Antecedent) ซึ่งวางอยู่หน้า Who, Which, That นั้น เช่น
It is I who am wrong.
ผมนี่แหละเป็นฝ่ายผิด
The boys who are playing there are my students.
เด็กๆที่กำลังเล่นอยู่ที่นั่นเป็นนักเรียนของผม
This is the girl who comes here every Sunday.
นี่คือเด็กหญิงผู้ซึ่งมาที่นี่ทุกวันอาทิตย์
This is one of house pictures which impress us.
นี่คือรูปภาพอันหนึ่งในบรรดาภาพเหล่านั้นที่ทำให้เราประทับใจ
It is the only book that has been written especially for Thai students.
มันเป็นหนังสือเล่มเดียวที่เขียนขึ้นมาเพื่อนักเรียนไทยโดยเฉพาะ
20. ถ้ามีประธาน 2 ตัว ตัวหนึ่งเป็นรูปบอกเล่า อีกตัวหนึ่งเป็นรูปปฏิเสธ คำกริยาต้องถือตามประธานที่เป็นรุปบอกเล่า เช่น
You, not I, are responsible for that.
คุณไม่ใช่ผม ที่เป็นคนรับผิดชอบเรื่องนั้น
She, not they, is going to leave.
หล่อนไม่ใช่พวกเขาที่จะต้องไป
Not riches, but honor makes the man.
ไม่ใช่ทรัพย์สมบัติ แต่เกียรติยศต่างหากที่ทำให้คนเป็นคน
21. Infinitive (กริยามี to นำหน้า) Gerund (กริยาเติม ing) พร้อมทั้งคำขยายของมัน เพื่อนำมาใช้เป็นประธานในประโยคให้ถือว่าเป็นเอกพจน์ตลอดไป กริยาจึงต้องใช้เอกพจน์ตาม เช่น
To read a book every day is a good habit.
การอ่านหนังสือทุกวันเป็นนิสัยที่ดี
To mend cars is the work of a mechanic.
การซ่อมรถยนต์เป็นงานของช่างเครื่องยนต์
Climbing mountains is a good exercise.
การปีนเขาเป็นการออกกำลังกายที่ดี
Drinking a lot of water when you are hot is said to be unwise.
การดื่มน้ำมากๆ เมื่อคุณร้อนมานั้น กล่าวได้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดนัก
22. คุณศัพท์ธรรมดา (Adjective) เมื่อนำไปใช้อย่างนามโดยมี the นำหน้า และมาทำหน้าที่เป็นประธาน ต้องใช้กริยาเป็นพหูพจน์ตลอดไป เช่น
The poor are many, but the rich are few.
คนจนมีมาก แต่คนรวยมีน้อย
The strong are able to lift that box.
คนแข็งแรงทั้งหลายสามารถยกกล่องนั้นขึ้นได้
The bad go to hell, but the good go to heaven.
คนชั่วไปนรก แต่คนดีไปสวรรค์
23. จำให้ดี : รูปประโยคต่อไปนี้นักศึกษามักใช้สับสนเสมอ
Only one of + นามพหูพจน์ + that, who, which + กริยาเอกพจน์
One of + นามพหูพจน์ + that, who, which + กริยาพหูพจน์
เช่น
He is only one of the three boys who comes here.
เขาคนเดียวเท่านั้นในเด็ก 3 คน ที่มาที่นี่
=(only one comes; who หมายถึง only one ไม่ใช่ไปแทน boys)
He is one of the ten boys who come here.
เขาคนเดียวในเด็ก 10 คนที่มาที่นี่
(al ten boys come; who หมายถึง หรือไปแทน boys)
24. เศษส่วนของนามพหูพจน์ ใช้กริยาเป็นพหูพจน์ เศษส่วนของนามเอกพจน์ใช้กริยาเป็น เอกพจน์ เช่น
Two-thirds of the students are studying in the room.
เศษสองส่วนสามของนักศึกษากากำลังเรียนอยู่ในห้อง
Two-thirds of the wall is painted green.
เศษสองส่วนสามของผนังทาสีเขียว
Two-thirds of the money has been spent.
เศษสองส่วนสามของเงินได้ใช้จ่ายไปแล้ว
25. ความหมายทางคณิตศาสตร์ เมื่อเชื่อมด้วย and ต้องใช้กริยาเป็นพหูพจน์ (ในความหมายเป็นบวก, คูณ) เช่น
Five and five are ten. 5 บวก 5 เป็น 10
Ten and ten are twenty. 10 บวก 10 เป็น 20
Fifty and Fifty are hundred. 50 บวก 50 เป็น 100
Four and four make sixteen. 4 คูณ 4 ได้ 16
26. ประโยคที่ขึ้นต้นด้วย Here และ There ให้วางประธานไว้หลังกริยา และกริยาที่ใช้ต้องถือเอาตามพจน์ของประธานที่ตามหลังนั้นอีกทีหนึ่ง (จะถือเอาตาม here, there ไม่ได้ เพราะ here, there ไม่ใช่ประธาน) เช่น
There is a book on the tale.
มีหนังสืออยู่บนโต๊ะ
There are three books in the suitcase.
มีหนังสือ 3 เล่มอยู่ในกระเป๋า
Here comes the bus.
รถประจำทางมาที่นี่
There go the thieves.
ขโมยไปที่นั่น
There have been two accidents so far.
ได้มีอุบัติเหตุ 2 ครั้งนานมาแล้ว
หมายเหตุ : ถ้าประธานเป็นบุรุษสรรนาม (Personal Pronoun) ให้วางไว้หน้ากริยา และพจน์ของกริยาต้องถือเอาตามสรรพนามตัวนั้นๆ เช่น
There he goes. เขาไปที่นั่น
Here we are. พวกเราอยู่ที่นี่
There you are. คุณอยู่ที่นั่น