ต่อจากตอนที่แล้ว โพสต์นี้จะขอรวมวลี/ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้งานในชีวิตประจำวันมาให้ทุกคนได้นำไปใช้ เริ่มที่ 10 ประโยคชุดที่ 2
Let’s go! เริ่มเลย!
- Did I get you right?
ใช้เวลาที่เราไม่แน่ใจว่าเราได้ยินข้อมูลมาถูกต้องหรือเปล่า อาจจะทวนข้อมูลนั้นกลับไปแล้วถามเขาต่อว่า “Did I get you right?” - Don’t take it to heart.
แปลว่า “อย่าเก็บเอาไปคิดเลย” หรือ “อย่าถือสาเลยนะ” ใช้เวลาที่เราไม่อยากให้ใครสักคนหัวเสียกับเรื่องบางเรื่อง “Aw, don’t take it to heart, dear.” - I didn’t catch the last word.
แปลว่า “ฉันฟังคำสุดท้ายไม่ทัน” เอาไว้ใช้เวลาที่เราฟังใครสักคนไม่ทัน จริง ๆ ฟังไม่ทันทั้งหมดนั่นแหละ แต่ก็เนียน ๆ ไปว่าเฮ้ยเมื่อกี้ฟังคำสุดท้ายไม่ทันน “Pardon me? I didn’t catch the last word.” - Sorry, I wasn’t listening.
อันนี้คือยอมรับกันไปตรง ๆ เลยว่า เฮ้ย เมื่อกี้ลืมฟังจริง ๆ พอดีเหม่อลอยอยู่ ช่วยเล่าใหม่ตั้งแต่ต้นได้มั้ยอ่าา “Sorry, man, I wasn’t listening.” - It doesn’t matter.
แปลว่า “ช่างมันเถอะ” ใช้เวลาที่เราขี้เกียจอธิบายอย่างหรือเหนื่อยกับการพยายามทำอะไรสักอย่างแล้ว แต่บางครั้งมันก็แปลแค่ว่า “ไม่ต้องคิดมาก” ก็ได้ - Fingers crossed!
เอาไว้ใช้แทน good luck แปลว่า “ขอให้โชคดีนะ!” เหมือนกัน และส่วนมากก็มักทำท่า fingers crossed แปลว่าพูดด้วย! - That explains it.
ใช้พูดเวลาที่ตอนแรกเราไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง แล้วก็เจอสิ่งที่ทำให้เราเข้าใจ อารมณ์ประมาณ “เป็นอย่างนี้นี่เอง” - Things happen.
เป็นวลีที่เอาไว้ปลอบใจ อารมณ์ประมาณ “นี่แหละสัจธรรมของโลก” 55555 อาจจะไม่ขนาดนั้นหรอก แปลง่าย ๆ ว่า “อย่าไปคิดมาก” ก็ได้ - Don’t over think it.
วลีนี้ก็คล้าย ๆ กับด้านบน มันแปลว่า “อย่าคิดมากไปเลย” ใช้เวลาที่ต้องการปลอบใจใครสักคนจากเรื่องร้าย ๆ - Sorry to bother you…
เป็นวลีที่ใช้เกินเวลาที่เราต้องขอความช่วยเหลือจากใครสักคน และเกรงว่าอาจต้องรบกวนเขานิดหน่อย มันฟังดูเพราะกว่า excuse me? เยอะเลยนะ
เจอกันตอนหน้าครับ
ขอขอบคุณข้อมูล