รูปแบบของ Direct Speech มีอยู่ 3 ชนิด คือ
รูปแบบที่ 1
1)วางประโยคนำ (เช่น he said หรือข้อความอื่นที่มีความหมายทำนองเดียวกันนี้) ไว้ต้นประโยค
2)ข้างหลังประโยคนำต้องใส่ Comma เสมอ (บางครั้งอาจใช้ Comma (:) หรือ Semi-colon (;) แต่ทุกวันนี้ไม่ค่อยนิยมใช้แล้ว)
3)ข้อความในเครื่องหมายคำพูดตามการใช้แบบที่ 1 นี้ จะต้องนำด้วยอักษรตัวใหญ่ (Capital letter) เสมอ เช่น
He said, “The first hero in Thai history was King Ram Kam Haeng.”
เขาพูดว่า “วีระบุรุษคนแรกในประวัติศาสตร์ไทยคือ พ่อขุนรามคำแหง”
รูปแบบที่ 2
1)วางประโยค (เช่น he said) ไว้ท้ายประโยค
2)จะมีเครื่องหมาย Comma อยู่หน้า he said เสมอ
3)จะกลับรูปประโยคจาก he said เป็น Said he ก็ได้และข้อความในเครื่องหมายคำพูด ต้องขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใหญ่เสมอ เช่น
“The first hero in Thai history was King Ram Kam Haeng,” he said.
(หรือ said he)
“วีระบุรุษคนแรกในประวัติศาสตร์ไทยคือ พ่อขุนรามคำแหง” เขาพูด
รูปแบบที่ 3
1)วางประโยคนำ (เช่น he said) แทรกไว้ตอนกลางของข้อความที่อยู่ในเครื่องหมายคำพูด
2)ข้างหน้า he said และข้างหลัง he said ต้องคั่นด้วยเครื่องหมาย Comma
3)จบข้อความที่อยู่หลัง he said ต้องใส่เครื่องหมาย full stop (.) เช่น
“The first hero in Thai history,” he said, “was King Ram Kam Haeng.”
“วีระบุรุษคนแรกในประวัติศาสตร์ไทย” เขาพูด “คือพ่อขุนรามคำแหง”