เรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง หลักการเปลี่ยนสำหรับ Indirect Exclamations

ถาม : เมื่อข้อความใน Direct Speech นั้นเป็นประโยคอุทาน (Exclamatory Sentence)

หากทำเป็น Indirect Speech หรือ Indirect Exclamation จะทำอย่างไร จงอธิบายมาให้ทราบ?
ตอบ : ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่า ประโยคอุทานคือประโยค เช่นไร ? คำตอบก็คือ “ประโยคอุทานได้แก่ ประโยคที่กล่าวออกมาด้วยการแสดงอารมณ์ เช่น อุทานออกมาด้วยความดีใจ, เสียใจ, ตื่นเต้น, ตกใจ, หรือขอร้องให้พระเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย” เรียกข้อความที่มีลักษณะเช่นนี้ว่า “ประโยคอุทาน” เมื่อข้อความใน Direct Speech เป็นประโยคอุทาน หากต้องการจะเปลี่ยนเป็น Indirect Speech หรือ Indirect Exclamation ให้ทำได้ดังนี้คือ “ใช้กริยานำ (Introducing Verb) ให้มีความหมายตรงกับประโยคอุทานนั้น โดยตัดคำอุทานที่มีอยู่ใน Direct นั้นทิ้งเสีย” เช่น

Direct : Somsak said, “Hurrah ! my friend has come.”

สมศักดิ์พูดว่า, “ไชโย ! เพื่อนของฉันมาแล้ว”

Indirect : Somsak exclaimed with delight that his friend had come.

สมศักดิ์อุทานออกมาด้วยความยินดีว่า เพื่อนของเขาได้มาแล้ว

จากประโยคตัวอย่าง เราจะเห็นว่า เปลี่ยน said, “Hurrah !….” เป็น Exclaimed with delight ถ้าจะถามว่า Exclaimed with delight เอามาจากไหน ก็ตอบได้ทันทีว่า “คิดขึ้นเอง” แต่จะต้องคิดให้มีความหมายตรงกับคำอุทาน ในที่นี่คำอุทานคือ Hurrah ! ซึ่งเป็นคำอุทานที่แสดงความยินดี เราจึงใช้ Exclaimed with delight มาเป็นคำแทนในประโยค Indirect Speech

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า กริยานำ (Introducing Verb) สำหรับประโยคอุทานนี้ค่อนข้างจะยุ่งยากมากเพื่อขจัดปัญหาดังกล่าวจะขอยกมา ให้ดูพอเป็นตัวอย่างไว้ ณ ที่นี้เสียเลย

กริยานำใน Indirect Speech 
ใช้สำหรับ
Exclaimed with delight
อุทานออกมาด้วยความดีใจ
Exclaimed with sorrow
อุทานออกมาด้วยความเสียใจ
Exclaimed with sadness
อุทานออกมาด้วยความเศร้าใจ
Exclaimed with surprise
อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ
Cried out very angrily
ร้องออกมาอย่างโกรธจัด
Confessed with regret
สารภาพออกมาด้วยความเสียใจ
Exclaimed with admiration
อุทานออกมาด้วยความชื่นชม
Prayed
สวดอ้อนวอน
Etc.

ตัวอย่างเช่น

Direct : He said, “May God pardon this sinner.”

เขาพูดว่า, “ขอพระจ้าจงยกโทษให้แก่คนบาปผู้นี้ด้วยเถิด”

Indirect : He prayed that God might pardon that sinner.

เขาสวดอ้อนวอนว่าขอให้พระเป็นเจ้าจงยกโทษให้กับผู้มีบาปผู้นั้นด้วย

Direct : He said, “Alas! how foolish I have been !”

เขาพูดว่า “อนิจจา ! ผมช่างโง่อะไรอย่างนี้”

Indirect : He confessed with regret that he had been very foolish.

เขาสารภาพออกมาด้วยความเสียใจว่าเขาได้โง่เขลาไปมาก

Direct : She said, “Wonderful ! what success you have !”

หล่อนพูดว่า. “โอ้โฮ ! คุณได้รับความสำเร็จอะไรอย่างนี้”

Indirect : She exclaimed with admiration for my success.

หล่อนอุทานออกมาด้วยความชื่นชมต่อความสำเร็จที่ผมได้รับ

Direct : He said, “Help me !”

เขาพูดว่า, “ช่วยด้วย !”

Indirect : He called for help.

เขาร้องขอความช่วยเหลือ

Direct : He said, “Ah ! Why did your brother die?”

เขาพูดว่า, “ฮ้า ! ทำไมน้องชายคุณจึงตาย?”

Indirect : He exclaimed with surprise at my brother’s death.

เขาอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจต่อการตายของน้องชายผม

Direct : Sak said, “Hello ! where are you off to ?”

ศักดิ์พูดว่า, “ฮัลโล ! นั่นคุณจะออกไปไหน?”

Indirect : Sak called out in surprise and asked where I was off to.

ศักดิ์ร้องออกมาด้วยความแปลกใจและถามว่า ผมจะออกไปไหน

แบบฝึกหัด

Change the following sentences into Direct Speech

1. Sak asked his friend, “Where will we stay tonight?”

2. I wondered, “Do all the people really believe such nonsense ?”

3. He said to me, “Are you leaving for London today ?”

4. “Would you mind sitting on the other chair, please ?” she said.

5. She said to me, “Have you some friends in New York ?”

6. My mother said, “May God pardon this sinner.”

7. That old man said, “Alas ! how foolish I have been !”

8. She said, “Help me !”

9. “What are you going to prepare for dinner ?” he asked me.

10. The teacher said to me, “Don’t forget to read a book.”

11. He said, “Wonderful ! what success you have !”

12. Thanin said, “Hello ! where are you off to ?”

เฉลยแบบฝึกหัด

1. Sak asked his friend where they would stay that night.

2. I wondered whether all the people really believed such nonsense.

3. He asked me if I was leaving for London that day.

4. She asked me whether I would mind sitting on the other chair.

5. She asked me if I had some friends in New York.

6. My mother prayed that God might pardon that sinner.

7. That old man confessed with regret that he had been very foolish.

8. She called for help.

9. He asked me what I was going to prepare for dinner.

10. The teacher warned me not to forget to read a book.

11. He exclaimed with admiration for my success.

12. Thanin called out in surprise and asked where I was off to.