เรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Intransitive Verb

ถาม : Intransitive Verb คืออะไร ขึ้นชื่อว่า Intransitive Verb แล้ว ไม่ต้องมีกรรมมารับทุกตัวไปใช่หรือไม่ ขอให้ชี้แจงให้หายข้อสงสัยบ้างเถอะ” จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง

ตอบ : Intransitive Verb แปลว่า “อกรรมกริยา” ได้แก่ “กริยาที่ไม่ต้องมีกรรมตามมา หรือมีกรรมมารองรับ เพราะมีเนื้อความสมบูรณ์อยู่ในตัวแล้ว ฟังเข้าใจได้ ปราศจากข้อสงสัยไม่คั่งค้าง” กริยาต่อไปนี้จัดอยู่ในประเภทอกรรมกริยา คือ

Go
ไป
Come
มา
Run
วิ่ง
Sleep
หลับ
Sit
นั่ง
Stand
ยืน
Fly
บิน
Light
ส่องแสง
Dance
เต้นรำ
Inhale
หายใจเข้า
Exhale
หายใจออก
Regret
เสียใจ
Relapse
ถอยกลับ
Stay
พัก, อยู่
Stifle
สำลัก

และ คำอื่นๆที่ไม่ได้ยกมาอีกหลายคำ

เรามาดู ตัวอย่างประโยคที่มีการใช้ อกรรมกริยา รวมด้วย เช่น

Who comes? ใครมา?

(หลัง comes ไม่ต้องมีกรรมมารับเพราะได้เนื้อความสมบูรณ์)

My sister dances very well.

น้องสาวของผมเต้นรำได้ดีมาก

(หลัง dances ไม่ต้องมีกรรมมารับเพราะได้เนื้อความสมบูรณ์แล้ว ส่วน very well ที่ตามหลังอยู่นั้น ไม่ใช่กรรม แต่เป็น Adverb)

ทุกท่านครับ จะอย่างไรก็ตาม อกรรมกริยาบางตัวแม้จะไม่ต้องการกรรมมารับโดยตรง แต่ก็ยังต้องพึ่งหรืออาศัย คำหรือ กลุ่มคำอื่นมาช่วยขยายตามหลังอยู่อีกนั่นแหละ แล้วอกรรมกริยาตัวนั้นจึงจะฟังได้เนื้อความชัดเจนขึ้น ไม่ชวนให้สงสัย แต่ขอให้ทราบด้วยว่า คำที่มาขยายตามหลังอกรรมกริยานั้น ไม่ได้มาในฐานะเป็นตัวกรรม (Object) แต่มาในฐานะเป็นตัวช่วยเกื้อกูลให้อกรรมกริยาตัวนั้นฟ้งเข้าใจความหมายกันได้ ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า “Subjective Complement” แปลว่า “ตัวขยายกรรมกริยา เพื่อให้ประธานของประโยคมีใจความสมบูรณ์”

อกรรมกริยา (Intransitive Verb) ที่ยังต้องอาศัย Subjective Complement แล้วเนื้อความจึงจะสมบูรณ์นั้น เท่าที่นิยมใช้กันอยู่ได้แก่กริยาต่อไปนี้

Get เป็น, มี

Feel รู้สึก

Look ดูเหมือน, ดูท่า

Seem ดูเหมือน

Taste ให้รส, มีรส

Turn กลายเป็น, เปลี่ยนเป็น

Stay อยู่ต่อไป

Verb to be เป็น, อยู่, คือ

Grow เจริญ, มี, เป็น

Become เป็น, กลายเป็น

Prove พิสูจน์, แสดงให้เห็น

Appear ปรากฏว่า

Sound มีเสียง, ให้เสียง, มีท่า

Remain ยังคงอยู่ต่อไป

Show แสดงให้เห็น, บอกให้ทราบถึง

Verb to have (เฉพาะที่แปลว่า) มี

(ที่แปลไว้นี้แปลตามความหมายที่นำมาใช้อย่าง อกรรมกริยา ที่เรียก Subjective Complement เท่านั้น) ตัวอย่างประโยค เช่น

John looks unhappy. จอห์นดูท่าไม่สบาย

He felt good. เขารู้สึกสบายดี

The milk in that glass is bad. นมในแก้วนั้นเสียแล้ว

Your plan proved useless. แผลการของคุณใช้ไม่ได้เลย

That policy sounds practical. นโยบายนั้นฟังดูมีท่าเหมาะแก่การปฏิบัติ

She seemed sleepy. หล่อนดูคล้ายกับง่วงนอน

The sky turns grey. ท้องฟ้ากลายเป็นสีเทา

Apasara remains beautiful. อาภัสรายังคงสวยอยู่อย่างเดิม

Unhappy, good, bad, useless, practical, sleepy, grey, beautiful ในประโยค ดูผิวเผิน เหมือนทำหน้าที่เป็น Object แต่หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ แท้ที่จริงแล้วมันก็ทำหน้าที่เป็น Subjective Complement ธรรมด๊าธรรมดานี้เองให้กับตัวประธานที่อยู่ข้างหน้ามีความสมบูรณ์ ทำให้ฟังไม่คั่งค้าง หวังว่าทุกคนคงจะเข้าใจกันน่ะครับ