เรียนการใช้ภาษาอังกฤษ Need

Need เป็นกริยา Anomalous Verb ที่ออกจะพิเศษอยู่นิดหน่อยนั้นคือ ใช้เป็นกริยาแท้ (Finite Verb) ก็ได้ ใช้เป็นกริยาช่วย (Helping Verb) ก็ได้ ดังจะได้อธิบายถึงรายละเอียดของการใช้ดังนี้ :

ก. Need ใช้อย่างกริยาแท้

1) Need ถ้านำมาใช้อย่างกริยาแท้ทั่วๆไป ตามด้วยคำกริยารูป Infinitive With “to” และเมื่อประธานของ need เป็นเอกพจน์ ปัจจุบันกาล need ต้องเติม s และเมื่อเป็นอดีตให้เติม ed ที่ need ได้เลย เช่น

She needs to go to see a doctor when she is sick.

หล่อนต้องไปหาหมอเมื่อหล่อนไม่สบาย

He needed to comes here yesterday but he didn’t

เขาจำเป็นต้องมาที่นี่เมื่อวานนี้ แต่เขาก็ไม่ได้มา

2) Need ที่ใช้อย่างกริยาแท้ (Finite Verb) เมื่อทำเป็นประโยคคำถามหรือปฏิเสธต้องใช้ Verb to do เข้ามาช่วย เช่น

บอกเล่า : He needs to work to earn his living.
เขาจำเป็นต้องทำงานหาเลี้ยงชีพตัวเขาเอง

ปฏิเสธ : He doesn’t need to work to earn his living.
เขาไม่จำเป็นต้องทำงานเพื่อเลี้ยงชีพของเขาอีกแล้ว

คำถาม : Does he need to work to earn his living?

เขาจำเป็นต้องทำงานเพื่อหาเลี้ยงชีพของเขาหรือ?

ข. Need ที่ใช้อย่างกริยาช่วย

1) Need ที่ใช้อย่างกริยาช่วย (Helping Verb) คำกริยาตัวอื่นที่ตามหลังต้องเป็น Infinitive Without “to” และเมื่อประธานเป็นเอกพจน์ ปัจจุบันกาล need ก็ไม่ต้องเติม s (หรือ ed, ing อะไรทั้งนั้น) เช่น

She need hardly do hard work.
เธอแทบจะไม่ได้ทำงานหนักเลย

We need never go to school late.
เราไม่เคยไปโรงเรียนสายเลย
2) Need ที่ใช้อย่างกริยาช่วย ไม่นิยมนำไปแต่งประโยคหรือพูดในข้อความที่เป็นบอกเล่า (Affirmative) แต่นิยมนำมาใช้ในประโยคคำถาม (Interrogative) หรือประโยคปฏิเสธ (Negative) หรือในประโยคที่มีข้อความเป็นครึ่งปฏิเสธ (Negative Implication) เท่านั้น เช่น
คำถาม : Need you continue your studies abroad?
คุณต้องการเรียนต่อต่างประเทศหรือ?

ปฏิเสธ : They needn’t smoke cigarettes.
พวกเขาไม่ต้องการสูบบุหรี่

คำถาม : Need you marry her next month?

คุณต้องการแต่งงานกับหล่อนหรือเดือนหน้า?

กึ่งปฏิเสธ : Sunai need rarely go to see the movie.
สุนัยแทบจะไม่ค่อยได้ไปดูหนังเลย

กึ่งปฏิเสธ : I need hardly have free time.
ผมแทบจะไม่ค่อยมีเวลาว่างเลย
: Payao need scarely with the fight.
พะเยาว์เกือบจะไม่ชนะการต่อสู้