Tense ใน Indirect Speech ที่เปลี่ยนจาก Direct Speech ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในกรณีใดบ้าง

ถาม : Tense ในประโยค Indirect Speech ซึ่งเปลี่ยนมาจาก Direct Speech แล้ว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงคือ ไม่นำเอากฎการเปลี่ยนแปลง Tense (3.3) มาใช้บังคับ จะได้ในกรณีไหนบ้าง ขอให้บอกมาพร้อมทั้งยกตัวอย่างด้วย

ตอบ : โดยทั่วไปแล้ว Tense ใน Direct Speech เมื่อเปลี่ยนเป็น Indirect Speech ก็ย่อมจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกฎของการเปลี่ยน Tense ข้อ 3.3 ดังที่ได้กล่าวมาแล้วทั้งนั้น แต่ในกรณีที่จะกล่าวต่อไปนี้ถือเป็นข้อยกเว้น ไม่ต้องนำเอากฎการเปลี่ยนแปลง Tense มาใช้บังคับ หมายความว่า ข้อความใน Direct Speech เป็น Tense อะไร เมื่อเปลี่ยนมาเป็น Indirect Speech ก็ให้คงไว้ตาม Tense เดิมนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอันนี้จะกระทำได้ก็เฉพาะกรณี 5 อย่างต่อไปนี้คือ

1)ใน Indirect Speech จะไม่มีการเปลี่ยน Tense เมื่อประโยคนั้นกล่าวถึงความจริงตลอดไป (general truth) หรือเป็นความจริงอันเป็นนิสัยประจำ (habitual fact) เช่น

Direct: He said, “The earth moves round the sun.”

เขาพูดว่า. “โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์”

Indirect: He said that the earth moves round the sun.

เขาพูดว่า โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์

(อย่าใช้ moved)

Direct: He said to me, “To err is human.”

เขาพูดกับผมว่า, “การทำผิดเป็นธรรมดาของมนุษย์”

Indirect: He told me that to err is human.

เขาบอกผมว่า การทำผิดเป็นธรรมดาของมนุษย์

(อย่าใช้ was)

Direct: My father said, “When the cat is away, the mice play.”

คุณพ่อของผมพูดว่า, “เมื่อแมวไม่อยู่ หนูก็ซน”

Indirect: My father said that when the cat is away, the mice play.

คุณพ่อของผมพูดว่า เมื่อแมวไม่อยู่ หนูก็ซน

(อย่าใช้ was และ played)

2)ใน Indirect Speech จะไม่มีการเปลี่ยน Tense เมื่อข้อความนั้นกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ยังคงดำเนินอยู่ (Action still going on) หรือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า (Action will happen soon) เช่น

Direct: He said, “I am the president of the English Club.”

เขาพูดว่า, “ผมเป็นประธานของชมรมภาษาอังกฤษ”

Indirect: He said that he is the president of the English Club.

เขาพูดว่าเขาเป็นประธานของชมรมภาษาอังกฤษ (อย่าใช้ was)

Direct: She said, “The Prime Minister will be coming here in five minutes’ time.”

หล่อนพูดว่า, “นายกรัฐมนตรีจะมาที่นี่ในเวลาอีก 5 นาทีนี้

Indirect: She said that the Prime Minister will be coming here in five minutes’ time.

หล่อนพูดว่า นายกรัฐมนตรีจะมาที่นี่ในเวลาอีก 5 นาทีนี้

(อย่าใช้ would be coming)

Direct: He said, “The plane will be landing in ten minutes’ time.”

เขาพูดว่า “เครื่องบินจะบินลงสู่พื้นดินในเวลาอีก 10 นาทีนี้”

Indirect: He said that the plane will be landing in ten minutes’ time.

เขาพูดว่าเครื่องบินกำลังจะบินลงสู่พื้นดินในเวลา 10 นาทีนี้แล้ว

3)ใน Indirect Speech จะไม่มีการเปลี่ยน Tense เมื่อกริยาในประโยคนำ (Introducing Verb) เป็น Present Simple, Present Perfect หรือ Future Simple Tense เช่น

Direct: He says, “ I have been reading a book.”

เขาพูดว่า “ผมได้อ่านหนังสือแล้ว”

Indirect: He says that he has been reading a book.

เขาพูดว่า เขาได้อ่านหนังสือแล้ว”

(อย่าใช้ : He says that be had been reading a book.)

Direct: She has said to me, “ I am coming.”

หล่อนได้พูดกับผมว่า, “ดิฉันกำลังมา”

Indirect: She has told me that she is going.

หล่อนได้บอกผมว่า หล่อนกำลังไป

(อย่าใช้ : she has told me that she was going.)

Direct : He will say, “The boy is lazy.”

เขาจะพูดว่า. “เด็กคนนั้นขี้เกียจ”

Indirect: He will say that the boy is lazy.

เขาจะพูดว่า เด็กชายคนนั้นขี้เกียจ

(อย่าใช้ : He will say that the boy was lazy.)

Direct: Tom explains, “The exhibition finished yesterday.”

ทอมอธิบายให้ฟังว่า, “นิทรรศการเสร็จไปเมื่อวานนี้”

Indirect: Tom explains that the exhibition finished the day before.

ทอมอธิบายให้ฟังว่า การจัดนิทรรศการได้เสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวันก่อน

(อย่าใช้ : Tom explains that the exhibition had finished the day before.)

Direct : He will tell you, “The girl is dancing.”

เขาจะบอกคุณว่า, “เด็กหญิงคนนั้นกำลังเต้นรำอยู่”

Indirect : He will tell you that the girl is dancing.

เขาจะบอกคุณว่า เด็กหญิงคนนั้นกำลังเต้นรำอยู่

(อย่าใช้ : He will tell you that the girl was dancing.)

4)ใน Indirect Speech จะไม่มีการเปลี่ยน Tense ถ้าข้อความนั้นเป็นประโยคเงื่อนไข สมมติเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้หรือไม่อาจเป็นไปได้ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต (ให้คง Tense เดิมไว้) เช่น

Direct: Chai said, “if I were you, I wouldn’t do it.”

ชัยพูดว่า, “ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะไม่ทำมัน”

Indirect: Chai said that if he were i(me), he wouldn’t do it.

ชัยพูดว่า ถ้าเขาเป็นผม เขาจะไม่ทำมัน

(อย่าใช้ : Chai said that if he had been I (me), he wouldn’t have done it.)

(สมมติเหตุการณ์ที่ไม่อาจเป็นไปได้)

Direct: He said, “If I were a bird, I would fly everywhere.”

เขาพูดว่า, “ถ้าผมเป็นนก ผมจะบินไปทุกหนทุกแห่ง”

Indirect: He said that if he were a bird, he would fly everywhere.

เขาพูดว่าถ้าเขาเป็นนก เขาจะบินไปทุกหนทุกแห่ง

(อย่าใช้ : He said that if he had been a bird, he would have flown everywhere.)

5)คำกริยาช่วยต่อไปนี้ได้แก่ would, should might ought to, had better, used to ถ้ามีอยู่ใน Direct Speech เมื่อทำเป็น Indirect Speech จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง (คือยังคงใช้ตัวเดิมอยู่) เช่น

Direct: He said, “I shouldn’t smoke a cigarette.”

เขาพูดว่า, “ผมไม่ควรสูบบุหรี่เลย”

Indirect: He said that he shouldn’t smoke a cigarette.

เขาพูดว่าเขาไม่ควรสูบบุหรี่เลย

Direct: Jim said, “We had better start our work today.”

จิมพูดว่า, “พวกเราควรจะควรจะเริ่มงานของเราวันนี้ดีกว่า

Indirect: Jim said that they had better start their work that day.

จิมพูดว่า พวกเขาควรจะเริ่มงานของเขาวันนั้นดีกว่า

Direct: Mother said, “I used to be naughty when I was young.”

คุณแม่พูดว่า, “ฉันเคยซนเมื่อตอนฉันเป็นเด็ก”

Indirect: Mother said that she used to be naughty when she was young.

(อย่าใช้ had used)

คุณแม่พูดว่าท่านเคยซนเมื่อตอนท่านเป็นเด็ก