เรียนภาษาอังกฤษ Transitive Verb

ถาม : Transitive Verb คืออะไร ได้แก่ Verb เช่นไร

ตอบ : Transitive Verb แปลว่า “สกรรมกริยา หมายถึงกริยาที่ต้องมีกรรมมารองรับ หรือ มีกรรม มาขยายตามหลังเสียก่อน แล้วเนื้อความของกริยาตัวนั้นจึงจะฟังเข้าใจกันได้” สกรรมกริยาได้แก่กริยาต่อไปนี้

Give, buy, bring, write, speak, hit, kick, see, look at, order, open, close, wash, clean, etc. เช่น

My mother bought meat and eggs yesterday.

คุณแม่ของฉันซื้อเนื้อและไข่มาเมื่อวานนี้

Today may mother is going to buy…….at the market.

วันนี้คุณแม่ของฉันจะซื้อ……ที่ตลาด

ประโยคแรก กริยา bought ได้เนื้อความสมบูรณ์ ฟังเข้าใจกันได้เพราะมีกรรมคือ meat และ eggs มารองรบใจความจึงชัดเจนขึ้น

ประโยคหลัง กริยา buy ฟังแล้วสงสัย ไม่ทราบว่า ซื้ออะไรเพราะไม่มีกรรมมารองรบขยายตามหลัง เนื้อความยังไม่สมบูรณ์ เพราะฉะนั้นสกรรมกริยาจึงต้องให้มีกรรมมารับตลอดไป ใจความของประโยคจึงจะฟังกันรู้เรื่อง

(เว้นแต่ผู้พูดและผู้ฟังรู้กันมาก่อนแล้วว่า คุยกันเรื่องอะไร สกรรมกริยาไม่ต้องมีกรรมมารับก็ได้)

ถาม : คำอะไรบ้างที่จะมาเป็นกรรม (Object) ของสกรรมกริยาได้ จงบอกมาพร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบด้วย

ตอบ : คำที่จะนำมาใช้ทำหน้าที่เป็นกรรมของสกรรมกริยา (Object of a transitive Verb) ได้นั้น ได้แก่คำต่อไปนี้คือ

1)นามทุกชนิด (All kinds of Nouns) เช่น

Our country needs the growth and development.

ประเทศของเราต้องการความเจริญก้าวหน้าและการพัฒนา

(growth and development เป็นกรรมของ needs)

2) สรรพนาม (Pronoun) เช่น
I told him that he could pass his examination.

ผมบอกเขาว่า เขาสอบไล่ได้

(him เป็น Pronoun มาทำหน้าที่เป็นกรรมของ told)

3) กริยาสภาวมาลา (ได้แก่ Infinitive) เช่น
These students want to continue their studies in a foreign country.
นึกศึกษาเหล่านี้ต้องการศึกษาต่อในต่างประเทศ

(to continue เป็น กริยาสภาวมาลา ทำหน้าที่เป็นกรรมของ want)

4) คำกริยาที่เติม ing (Gerund) แล้วนำมาใช้อย่างนาม เช่น

Ever since he has got bad health, he stops smoking cigarettes.

ตั้งแต่เขาไม่สบายนี้ เขาเลิกสูบบุหรี่แล้ว
(Smoking เป็น Gerund ทำหน้าที่เป็นกรรมของ stops)

5) วลีทุกชนิด (Phrases) เช่น
She doesn’t know what to do for you.

หล่อนไม่รู้ว่าจะทำอะไรให้คุณ
(What to do เป็นวลี ทำหน้าที่เป็นกรรมของ know)

6) อนุประโยค (Subordinate Clause) เช่น
I know what he is going to do there.

ผมรู้ว่าเขาจะไปทำอะไรอยู่ที่นั่น

(What he is going to do there เป็นอนุประโยคทำหน้าที่เป็นกรรมของกริยา know)

ถาม : Transitive Verb (สกรรมกริยา) บางตัว เมื่อมีกรรมมารับแล้วได้เนื้อความสมบูรณ์ทุกตัวไปใช่หรือไม่

ตอบ : หามิได้ สกรรมกริยาบางตัว แม้มีกรรมมารับหรือมาขยายตามหลังแล้ว ก็หาได้มีเนื้อความสมบูรณ์ไม่ จำเป็นต้องมีคำหรือกลุ่มคำอื่นมาขยายตัวกรรมนั้นอีกทีเสียก่อน แล้วสกรรมกริยาตัวนั้นจึงจะได้เนื้อความสมบูรณ์ชัดเจนขึ้น (ไม่คั่งค้าง) คำหรือกลุ่มคำที่มาขยายตามหลังกรรมอีกทีหนึ่งนั้นเรียกว่า “Objective Complement” แปลว่า “คำหรือกลุ่มคำที่ตามหลังกริยา แล้วทำให้ประโยคมีความสมบูรณ์ขึ้น (ฟังไม่คั่งค้าง)” เช่น

The people in this country made him king.

ประชาชนในประเทศนี้ตั้งให้เขาเป็นพระราชา

(king เป็น Noun ทำหน้าที่ขยาย him จึงเป็น Objective Complement)

They set the prisoners free.

พวกเขาได้ปล่อยนักโทษให้เป็นอิสระ

(free เป็น Adjective ทำหน้าที่ขยาย Prisoners จึงเป็น Objective Complement)

I found Susan walking under the tree in the garden.

ผมเห็นซูซานเดินอยู่ใต้ต้นไม้ในสวน

(walking เป็น Participle ทำหน้าที่ขยาย Susan จึงเป็น Objective Complement)

We wish the thief to be killed.

เราอยากให้ขโมยคนนั้นถูกฆ่าตายเสีย

( to be killed เป็น Infinitive ทำหน้าที่เป็น Objective Complement)

The sun keeps us warm.

ดวงอาทิตย์ทำให้เราอบอุ่น

(Warn เป็น Adjective ทำหน้าที่เป็น Objective Complement)

ขอให้สังเกต : คำที่จะมาทำหน้าที่เป็น Objective Complement ได้นั้น ได้แก่ Adjective, Noun, Participle, Infinitive เท่านั้น