ถาม : Verb to be ใช้ทำหน้าที่ช่วยกริยาตัวอื่นได้อย่างไรบ้าง จงบอกมา?
ตอบ : Verb to be ใช้ทำหน้าที่ช่วยกริยาตัวอื่นได้ดังต่อไปนี้
1) วางไว้หน้ากริยาตัวที่เติม ing ทำให้ประโยคนั้นเป็น Continuous Tense มีสำเนียงแปลว่า “กำลัง” ทุกครั้งไป เช่น
We are learning English. เรากำลังเรียนภาษาอังกฤษ
He is reading a book. เขากำลังอ่านหนังสือ
It is sleeping under the bed. มันกำลังนอนอยู่ใต้เตีนยง
The students are playing football.
นักศึกษากำลังเล่นฟุตบอล
She will be working at home when we arrive.
หล่อนจะกำลังทำงานอยู่ที่บ้านเมื่อเรามาถึง
เพื่อกันลืมขอให้ทุกท่านจงท่อง คาถานี้ไว้
“กริยาช่อง ที่ 1 เติม ing”
“มี Verb to be อยู่ข้างหน้า”
“ให้แปลว่า “กำลัง” “
2) วางไว้หน้ากริยาช่อง 3 (เฉพาะสกรรมกริยา) ทำให้ประโยคนั้นเป็นกรรมวาจก (Passive Voice) มีสำเนียงแปลว่า “ถูก” เช่น
He was punished by the teacher yesterday.
เขาถูกทำโทษโดยคุณครูเมื่อวานนี้
A glass of water of mine is broken.
แก้วน้ำของฉัน (ถูก) ทำแตกเสียแล้ว
This house was built here last year.
บ้านหลังนี้ถูกสร้างไว้ที่นี่เมื่อปีกลายนี้
3) วางไว้หน้ากริยาสภาวมาลา (infinitive) มีสำเนียงแปลว่า “จะ, จะต้อง” แสดงถึงหน้าที่ที่ต้องกระทำ, แผนการ, การเตรียมการ, คำสั่ง, คำขอร้อง, หรือความเป็นไปได้ เช่น
He is to stay here will I come back.
เขาจะต้องอยู่ที่นี่จนกว่าผมจะกลับมา
She is to be paid at the end of this week.
เธออาจจะได้รับเงินเมื่อปลายสัปดาห์ก็ได้
Chaiyong is to go home tomorrow.
ไชยยงค์จะกลับบ้านวันพรุ่งนี้
4) ประโยคคำสั่ง, อวยพร, ที่นำหน้าประโยคด้วย Adjective (คุณศัพท์) ต้องใช้ Be นำหน้าเสมอ เช่น
Be quiet. The baby is sleeping.
เงียบหน่อย เด็กเล็กกำลังนอนหลับอยู่
Be good luck in your examination.
ขอให้โชคดีในการสอบของคุณ
อนึ่ง ถ้าต้องการเน้นให้คำสั่ง คำอวยพรนั้นมีน้ำหนักขึ้น ให้ใช้ Do นำหน้า be อีกทีหนึ่ง เช่น
Do be quiet. I am doing the exercise.
ขอให้เงียบหน่อยเถอะ ผมกำลังทำแบบฝึกหัด
Don’t be so silly. (รูปปฏิเสธใช้ don’t นำหน้า be)
อย่างี่เง่าเช่นนั้นก็แล้วกัน
5) ใช้นำหน้าสำนวน about to + Verb ช่อง 1 มีสำเนียงว่า “จะ” แสดงถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เช่น
They are about to start journey this evening.
พวกเขาจะออกเดินทางกันเย็นวันนี้
Mr. Brown is about to be here soon.
นายบราวน์จะมาถึงที่นี่เร็วๆนี้
I am about to go home within two hours.
ผมจะกลับบ้านภายใน 2 ชั่วโมง
6) ใช้ทำหน้าที่เป็นกริยาหลัก (Principal Verb) ในประโยคได้ กรณีนี้ในประโยคนั้นจะไม่มี Verb ตัวอื่น เข้ามาร่วมอยู่กับ Verb to be เช่น
Anne is always a good girl.
แอนเป็นเด็กหญิงดีเสมอ
I am a teacher of English.
ผมเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ
These tourists are from the United Kingdom.
นักท่องเที่ยวเหล่านี้มาจากสหราชอาณาจักร